วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวเมืองสวิตเซอร์แลนด์


     ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยงามและเงียบสงบไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในโลก จึงเป็นประเทศที่ใครหลาย ๆ คนฝันอยากจะไปท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับความงามของที่นี่ด้วยตาของตัวเองสักครั้ง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมายตั้งแต่ รีสอร์ทบนภูเขา ทะเลสาป ป่าโปร่งเขียวชอุ่ม ปราสาทยุคโบราณ รวมถึงเมืองที่มีบรรยากาศทั้งแบบยุคใหม่และยุคเก่าผสมพสานอย่างลงตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นประเทศที่เหมาะเป็นอย่างมาก


1.บาเซิล (Basel)


     เมืองเก่าสไตล์ยุโรปโบราณริมฝั่งแม่น้ำไรน์ (The Rhine River) เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์และแกลอรี่เยอะมาก เช่น เบเยลเลอร์ แกลอรี่ (Fondation Beyeler) เป็นที่รวบรวมภาพเขียนของศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น แวนโก๊ะห์ (Van Gogh) และปิกาสโซ่ (Picasso) เป็นต้น คันสเทล บาเซิล (Kunsthalle Basel) จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (Basel Historical Museum) ตั้งอยู่ในโบสถ์เก่าตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ คันสท์ มิวเซียม (Kunstmuseum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะสวยๆ ทั้งแนวย้อนยุคและแบบร่วมสมัย และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนี้บาเซิลก็ยังมีสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ระดับโลก ซู บาเซิล (Basel Zoological Garden-Zoo Basel)

2.เบิร์น (Bern)
 

   เมืองหลวงของประเทศที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก เพราะการรักษาผังเมืองให้คงเดิม แม้ว่าเมืองนี้จะมีอายุกว่า 800 ปี  และเมืองนี้ยังมีป้อมปราการธรรมชาติล้อมรอบ สร้างความสวยงามและโรแมนติกไม่น้อยกว่าเมืองใดในโลก ชมบ่อเลี้ยงหมีแห่งเบิร์นอันเป็นที่มาของชื่อเมืองและยังเป็นโลโก้ประจำเมืองอีกด้วย ไปเยือนสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองหอนาฬิกาไซท์กล่อกเคนทัม ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 และเคยใช้เป็นประตูเมืองในอดีต โบสถ์มุนสเตอร์ เซนต์ วินเซ็นซ์ (Munster St. Vinzenz) เป็นโบสถ์ประจำเมืองที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของประเทศ


3.ซูริค (Zurich)

   ซูริคได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก ชมโบสถ์ฟราวมุนสเตอร์ (Fraumunster) เป็นโบสถ์ที่สวยงามด้วยกระจกสี (Stain Glass) หอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์ (St.Peter) หอนาฬิกาที่มีหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์หอคอยคู่กรอสมุนเตอร์ (Grossmuster) ห้องแสดงภาพศิลปะ คุนสท์เฮาส์ (Kunsthaus) ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) และหากมีเวลาเหลือควรขับรถไปชมน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรป น้ำตกไรน์ (Rhine Falls)


4.เจนีวา (Geneva)

   เมืองต้นกำเนิดของ www (World Wide Web) ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองนานาชาติ เพราะเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติใหญ่ๆ เช่น องค์กรสันนิบาตชาติ กาชาดสากล สำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำทวีปยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การการค้าโลก (WTO) ขึ้นชื่อเรื่องการทำนาฬิกาชั้นดี ชมนาฬิกาดอกไม้สัญลักษณ์แห่งเจนีวา เยือนทะเลสาบเจนีวาหรือทะเลสาบเลม็อง (Lake Geneva/ Lake Léman) เป็นทะเลสาบที่สวยงามครอบคลุมพื้นที่กว่า 582 ตร.ม. ชมน้ำพุเจ็ทเดเอา (Jet d’ Eau) น้ำพุที่สูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งโดยปกติน้ำพุจะเปิดตลอดปียกเว้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ก็อย่าลืมแวะเขตเมืองเก่าเพื่อไปเยือนวิหารเซนต์ปิแอร์ (Cathédrale St. Pierre) โบสถ์เก่าแก่ของเมือง  และพิพิธภัณฑ์เอเรียน่า (The Musée Ariana-Ariana Museum) ที่จัดแสดงเครื่องแก้วและเซรามิกตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 20,000 ชิ้น


5.เซอร์มัท (Zermatt)

   เมืองเล็กๆ เมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา เป็นเมืองที่ตั้งของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) มงกุฎแห่งเทือกเขาแอลป์ภูเขารูปทรงปีรามิด สัญลักษณ์ของประเทศที่เรามักพบเห็นจากกล่องช็อกโกแลต เป็นแหล่งสกีขึ้นชื่อและเป็นเมืองปลอดมลพิษ เพราะเมืองนี้เขาห้ามใช้เครื่องยนต์ต่างๆ ที่ใช้น้ำมัน ชาวเมืองนี้ไปไหนมาไหนด้วยการเดินเป็นหลักหรือใช้ขนส่งสาธารณะ เช่น รถรางไฟฟ้า รถแท๊กซี่ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางมาเมืองนี้ คือ นั่งรถไฟมาและเดินลงเขาเข้าเมือง


6.อินเตอร์ลาเก้น (Interlaken)
   เมืองที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ ฉายาเมืองในฝัน เป็นเมืองตากอากาศชั้นนำ และยังเป็นทางผ่านสำหรับไปพิชิตยอดเขาจุงฟราว (Jungfrau) และดินแดนหลังยุโรปมรดกโลก จุงฟราวยอร์ค (Jungfraujork) หากมาเยือนฤดูหนาวจะได้ชมวังน้ำแข็งและธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ธารน้ำแข็งอเลิทซ์ (Aletsch Glacier) หากออกนอกเมืองไปจะมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งบาเลนเบิร์ก (Ballenberg) จัดแสดงชาติพันธุ์และการดำรงชีวิตในสมัยโบราณ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ถึง 31 ตุลาคม เมืองนี้โด่งดังมากด้านงานฝีมือทุกชนิด


7.โลซานน์ (Lausanne)

   เมืองที่มีความเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 โลซานน์เป็นเมืองที่สงบและงดงามมากอยู่ติดกับทะเลสาบเจนีวา มีท่าเรือข้ามไปสู่ประเทศฝรั่งเศสได้ ชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิค (Olympic Museum) ที่จัดแสดงความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิคและเป็นสำนักงานโอลิมปิคสากลอีกด้วย เดินชมบรรยากาศเมืองเก่าที่ดึงดูดกวีหลายๆ คนให้เยือนและกล่าวถึง เช่น วอลแตร์ (Voltaire) ชาร์ลส ดิกเก้นส์ (Charles Dickens) ที เอส อีเลียต (T.S. Elliot) คนไทยเรารู้จักเพราะเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่าและในหลวงเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์


8.ลูเซิร์น (Luzern) 

   เป็นเมืองที่คนนิยมมาซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ รองลงมาคือมีดพก (Swiss Army Knives) ชมสถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 500 ปี ชมหอคอยแปดเหลี่ยม (Water Tower) และสะพานไม้ลูเซิร์น ชาเปล บริดจ์ (Chapel Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อนุสาวรีย์ภูเขาสิงโต (Mountain Lion) พิพิธภัณฑ์การขนส่งและคมนาคมใหญ่ที่สุดในยุโรป (Museum of Transport and Communication) เยือนภูเขาติลติส (Titlis) และพิลาตุส (Pilatus) เป็นภูเขาที่มีความชันที่สุดในโลก มีภัตตาคารอยู่บนยอดเขาที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบ เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นตลอดปี ลูเซิร์นมีตลาดนัดประจำเมืองทุกวันอังคารและวันเสาร์

อ้างอิง : http://www.skyscanner.co.th/news/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%9B-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น